08 Sep หย่าแล้ว ฟ้องชู้ได้หรือไม่?
เกร็ดความรู้กฎหมาย
“หย่าแล้ว ฟ้องชู้ได้หรือไม่?”
แนวทางปฏิบัติและคำแนะนำทางกฎหมาย
ในปัจจุบัน ปัญหาการนอกใจและการหย่าร้างเป็นเรื่องที่พบได้ในสังคมไทย เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่า หากได้ทำการหย่าร้างแล้ว ยังสามารถฟ้องหญิงชู้หรือชายชู้ได้หรือไม่? คำถามนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาดังกล่าว เนื่องจากการฟ้องร้องในกรณีนี้สามารถนำไปสู่การเรียกค่าทดแทนและการได้รับการชดเชยในทางกฎหมาย
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง: ให้สิทธิคู่สามีภริยาที่ถูกนอกใจสามารถฟ้องหญิงชู้/ชายชู้
2. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1529 : อายุความเรื่องการฟ้องชู้ไว้โดยมาตรา 1529 มีอายุความ 1 ปี นับแต่วันผู้กล่าวอ้างรู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้องชู้ หากไม่ได้ดำเนินการฟ้องร้องภายในระยะเวลานี้ สิทธิในการฟ้องร้องจะหมดไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ที่ประสบกับปัญหานี้ควรระลึกไว้เสมอ
คำพิพากษาฎีกาที่เป็นกรณีศึกษา
คำพิพากษาฎีกาที่ 4261/2560
โจทก์ในฐานะภริยามีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง แม้ขณะฟ้องจะได้จดทะเบียนหย่ากันแล้ว กรณีมิใช่การกระทำละเมิด ส่วนปัญหาจำเลยต้องใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์หรือไม่ เห็นสมควรวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย เนื่องจากคู่ความได้สืบพยานกันเสร็จสิ้นแล้ว
ซึ่งตอนหนึ่งในคำพิพากษานั้นวินิจฉัยไว้ว่า “กรณีที่สามีไปมีความสัมพันธ์ทำนองชู้สาวกับหญิงอื่นอันเป็นการกระทบกระเทือนถึงสิทธิของภริยานั้น มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง กรณีต้องตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติมาตราดังกล่าวเท่านั้น ภริยาจึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ แม้จะได้จดทะเบียนหย่ากันแล้วก็ตาม”
คำพิพากษาฎีกาที่ 2590/2561
“บทบัญญัติมาตรา 1523 วรรคสอง แห่ง ป.พ.พ. ให้สามีมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินภริยาไปในทางชู้สาวได้ แม้ภริยาสมัครใจหรือยินยอมให้ล่วงเกินไปในทำนองชู้สาว สามีก็มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนตามวรรคสองนี้ได้ เพราะการฟ้องเรียกค่าทดแทนตามวรรคสองนี้เป็นสิทธิของสามีโดยเฉพาะและสิทธิในการฟ้องของสามีย่อมเกิดขึ้นตั้งแต่ขณะที่มีการล่วงเกินในทางชู้สาวกัน จำเลยที่ 2 มีความสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 ทางชู้สาวอันเป็นการล่วงเกินในทางชู้สาวต่อจำเลยที่ 1 ในขณะที่จำเลยที่ 1 ยังเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ สิทธิของโจทก์ตามบทบัญญัติดังกล่าวย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่ขณะที่ยังไม่มีการหย่า แม้ภายหลังมีการจดทะเบียนหย่ากันแล้ว สิทธิในการฟ้องก็หาได้หมดสภาพหรือถูกลบล้างตามไปด้วยไม่ โจทก์มีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยที่ 2 ได้ตามบทบัญญัติดังกล่าว”
สรุปได้ว่าการที่สามี/ภริยา มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับชายชู้/หญิงชู้ โดยที่ยังเป็นสามี/ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายกับคู่สมรสอยู่ ทำให้สิทธิของสามี/ภริยา ที่ถูกนอกใจ ในการฟ้องเรียกค่าทดแทนเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลาที่รู้หรือควรรู้ความสัมพันธ์ชู้สาวนั้น แม้ภายหลังการหย่าร้าง สิทธิในการฟ้องร้องก็ยังคงอยู่และสามารถใช้ได้ตามกฎหมาย ดังนั้น ในกรณีที่ท่านพบว่าคู่สมรสของท่านมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นในทำนองชู้สาว ท่านยังคงมีสิทธิที่จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าทดแทนได้ แม้ว่าท่านจะได้จดทะเบียนหย่ากันแล้วก็ตาม
ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำ
การดำเนินการภายในระยะเวลา 1 ปี: ผู้ที่ต้องการฟ้องร้องจะต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ทราบหรือควรรู้ถึงการนอกใจของคู่สมรส เพื่อรักษาสิทธิในการฟ้องร้อง
การรวบรวมหลักฐานที่จำเป็น: การมีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ชู้สาวของคู่สมรสและหญิงชู้หรือชายชู้ เช่น ภาพถ่าย การบันทึกเสียง หรือพยานบุคคล จะช่วยสนับสนุนคดีและเพิ่มโอกาสในการชนะคดี
การปรึกษาทนายความ: การปรึกษาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในคดีครอบครัวและการฟ้องร้องชู้สาวจะช่วยให้ท่านได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและสามารถดำเนินคดีอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ท่านมีโอกาสได้รับการชดเชยตามกฎหมายอย่างเหมาะสม
หากท่านต้องการคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือในการดำเนินคดีฟ้องหย่า ฟ้องชู้ หรือฟ้องเรียกค่าทดแทน
สามารถติดต่อทนายปภังกร (อาร์ต)
ได้ที่เบอร์โทร 062-265-9995
Line: @legalreso
เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ทนายความที่มีประสบการณ์จะช่วยท่านในการวางแผนและดำเนินคดีอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ท่านได้รับการชดเชยตามกฎหมายอย่างถูกต้องและเป็นธรรม
Sorry, the comment form is closed at this time.